แมวสองตัวอยู่ในห้องเดียวกัน(....ก็พอไหว) [ YUTAE ]
#ตะยูตะยง

ช่วงเวลาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ หลังจากจบการฝึกซ้อมในแต่ละวันคือช่วงเวลาที่ลี แทยงชอบมากที่สุด เนื้อตัวจะทั้งอุ่นและนุ่มจากไอน้ำร้อน กลิ่นแชมพูหอมสดชื่นกับผิวกายสะอาดสะอ้านด้วยสบู่เหลวราคาแพง และการได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ซึ่งผ่านการซักมือมาหมาดๆ เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่สุดของเขาเลยทีเดียว.... พอคิดถึงเตียงนอนที่จัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ วางหมอนหนุนสองใบ หมอนอิงหนึ่งใบ หมอนข้างอีกหนึ่งใบ ผ้าห่มนวมผืนใหญ่ซึ่งยังมีกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม หัวใจก็วิ่งนำลิ่วไปนอนแผ่เหยียดแข้งเหยียดขาก่อนที่ตัวจะไปถึงเสียแล้ว
แต่ก็ต้องชะงักความคิดทุกอย่างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า....
"ยูตะ.... นายทำอะไรน่ะ?"
น้ำเสียงห้วนกับสายตาเขียวขุ่นถูกส่งไปให้คนที่อยู่ในห้อง ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ารอยยิ้มอมๆ บนใบหน้าของแทยงหายวับไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดประตู เปลี่ยนเป็นสีหน้าเหี้ยมโหดเหมือนอยากหักคอมนุษย์หน้าด้านหน้าทนด้วยมือเปล่าเสียมากกว่า
"หืมมม ไรเหรอ??" ตัวต้นเหตุยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาว หันมาทำปากยื่นเหมือนเป็ดพร้อมท่าทางแอ๊บแบ๊วราคาร้อยล้านเยนใส่เสียงอย่างนั้น "ก็นอนอยู่ไง แล้วก็อ่านการ์ตูนไปด้วย.... วันพีซเล่มใหม่ หนุกเหมือนเดิมว่ะ"
คำตอบที่ได้ยินทำเอาคนตัวขาวจัดมุมปากกระตุก แทยงเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น.... ใกล้มากพอที่จะทำให้เงาทะมึนของตนพาดทับลงบนร่างของนากาโมโตะ ยูตะ พลางถามย้ำอีกครั้งด้วยโทนเสียงสยองขวัญกว่าเดิม
"ฉันหมายความว่า นายมาทำอะไรบนเตียงของฉัน!!??"
"อ๋อ.... แหม~ มันก็นะ"
ในที่สุด รูมเมทสัญชาติญี่ปุ่นก็ยอมเด้งตัวขึ้นมายิ้มอ้อร้อ ร่างโปร่งบางตวัดขานั่งขัดสมาธิแล้วเอาหมอนข้างนุ่มฟูมากอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อหน้าต่อตาเจ้าของ ตัดภาพไปยังเตียงอีกหลังซึ่งอยู่ตรงกันข้าม เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ ผ้าเช็ดตัวเปียกติดกลิ่นอับชื้น ภูเขาหนังสือการ์ตูน ถุงขนมที่กินหมดแล้วปะปนอยู่กับหมอนและผ้าห่มจนไม่รู้แล้วว่าอันไหนคือเครื่องนอน อันไหนคือขยะ
"ก็เตียงนายมันมีที่ว่างอะ.... ผ้าปูที่นอนสะอาด แถมผ้าห่มก็ห๊อมมมม~~หอมมมมมม"
ไม่พูดเปล่า ยูตะคนดีศรีโอซาก้ายังล้มตัวลงนอนหลับตาพริ้มโดยมีผ้านวมที่แทยงหวงยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดห่อตัวเหมือนแคลิฟอร์เนียโรลไข่กุ้ง ไม่สะทกสะท้านต่อบรรยากาศมาคุซี่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย.... ถ้าบอกว่าความสุขของแทยงคือการได้จัดระเบียบข้าวของ ซักผ้าด้วยมือในกะละมัง ฉีดสเปรย์ปรับอากาศจนหอมฟุ้งไปทั้งห้อง ความสุขของยูต๋าก็คือการได้หมกตัวอยู่ท่ามกลางสิ่งสะอาดสวยงามที่รูมเมทสร้างเอาไว้ โดยมีความเน่าหนอนบนเตียงตัวเองเป็นฉากคอนทราสต์ สร้างความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงภายในพื้นที่แคบๆ ไม่ถึงยี่สิบตารางเมตร
"นายอาบน้ำหรือยัง?"
"อาบตั้งแต่ตอนจบคลาสเต้นแล้วไง"
"หลังจากนั้นนายก็ออกไปข้างนอกนี่!"
"ไปแค่ร้านกาแฟเอง"
ยูตะคิดว่าเพราะนี่คือฤดูใบไม้ผลิ อากาศแค่สิบองศาต้นๆ เดินให้ตายยังไงก็ไม่มีเหงื่อออก ถ้าไม่ติดว่ามีคลาสเต้นหฤโหด จะหมักดองไม่อาบน้ำสักสอง-สามวันก็ยังไหว แต่แทยงไม่เคยคิดแบบนั้น.... ยิ่งพอเห็นเศษมันฝรั่งทอดจากปากเพื่อนร่วงบนที่นอนของตัวเอง ก็ยิ่งไม่คิดแบบนั้นไปกันใหญ่ แล้วก็จะไม่มีวันยอมให้มันเลวร้ายมากไปกว่านี้ด้วย
"ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
"ไมอ้ะ?"
"ก็นายตัวเหม็นน่ะสิ!!"
แทยงประกาศกร้าวว่าจะไม่ทนอีกต่อไป ในขณะที่ยูตะโงหัวขึ้นมาจากผ้าห่มพร้อมทำหน้าตาเหรอหราเสมือนว่าเกิดมาชาตินี้ไม่เคยคลุกฝุ่นคลุกดินมาก่อน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกจากเตียงของแทยงเหมือนกัน
"เหม็นยังไง?"
"บอกว่าเหม็นก็เหม็นสิ!!"
"งื้อออ~~ ไม่เหม็นโว้ย!!"
"ก็บอกให้ลงมาไงวะ!!"
"อ๊ากกกกกก!!!!!"
โครม!!!
เพียงชั่วอึดใจที่ลี แทยงบันดาลโทสะ ใช้สองมือลากแขนรูมเมทแล้วดึงพรวดลงมาจากที่นอนในคราวเดียว ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อร่างของเพื่อนร่วมห้องร่วงจากเตียงลงมา.... นัยว่าเมื่อของแข็งปะทะกับของแข็งกว่าย่อมส่งแรงสะท้อนเป็นอาการปวดจี๊ดเข้ากระดูก ทำเอายูตะถึงกับดิ้นพราดๆ เมื่อก้นของเขาจ้ำเบ้ากระแทกพื้นเต็มแรง
"อูยยยยยยย" เจ็บไม่เจ็บก็คิดดู นี่ถึงขั้นน้ำตาเล็ดก็เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่วายลุกขึ้นทำปากเก่งชี้หน้าด่าอีกฝ่ายปาวๆ "เจ็บนะ.... ไอ้แทยง!! ไอ้บ้า!!!"
"นายสิบ้า!" แทยงโตกลับ ดูท่าทางจะหัวเสียไม่น้อยที่ต้องมาเจอเรื่องบ้าบอที่เจ้ารูมเมทปัญญาอ่อนสร้างเอาไว้ "แทนที่ฉันกลับมาเหนื่อยๆ จะได้นอนพักสบายๆ กลับต้องมาวุ่นวายเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเพราะนายเนี่ย!!"
"แค่ขอนอนนิดหน่อยเอง ถึงกับต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเลยเหรอ!?"
"เออ สิวะ!" แทยงไม่สนใจน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า แต่กลับคว้าสเปรย์ปรับอากาศมาฉีดไปทั่ว
"ฮึ่ยยยยย รังเกียจกันดีนักใช่ไหม!?"
"เออ!!"
"จำไว้เลยนะ ไอ้แทยง.... ฉันจะไม่อยู่ห้องนี้แล้ว!!!"
.
.
.
"เฮ้ย แมวสองตัวมันกัดกันอีกแล้วเหรอวะ?"
"ไม่รู้สิครับพี่......."
เพราะเสียงอาละวาดโครมครามซึ่งดังมาจากห้องด้านในสุด ทำเอาจอห์นนี่กับแจฮยอนที่นั่งจิบกาแฟร้อนยามค่ำกันอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมต้องหันมาซุบซิบกันเป็นการใหญ่ ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้าย่ำโครมๆ มาตามทางเดินทำเอาพื้นสั่นเหมือนมีแผ่นดินไหว แล้วก็ไม่ผิดคาดเลยแม้แต่น้อย.... นากาโมโตะ ยูตะโผล่ออกมาจากมุมมืดพร้อมใบหน้าแดงก่ำ ดวงตารื้นน้ำ ริมฝีปากเบะเต็มที่ พอเห็นฮันซลกับเตนล์กำลังคุยเรื่องท่าเต้นใหม่ที่เพิ่งเรียนมาอย่างออกรสอยู่ตรงอีกมุมหนึ่ง เจ้าของหัวกลมป๊อกเหมือนทาโกะยากิก็ตรงเข้าไปแผดเสียงสะอื้นร้อยเดซิเบลใส่
"พี่ฮันซล.... เตนล์จ๋า.... ฮืออออออออออออ!!!!"
"ฮะ....เฮ้ย ยูตะ!!??"
"พี่ยูตะ เป็นอะไรไปน่ะ??"
แน่นอนว่าบุคคลทั้งสองผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะต้องตกใจ รีบคว้าตัวยูตะขึ้นมานั่งบนโซฟาแล้วลูบหัวลูบหลังปลอบเอาไว้ก่อน.... ถึงจะรู้ดีว่าคนอย่างเจ้ายูต๋า แค่โดนเด็กประถมแย่งซื้อคิมบับตัดหน้าก็กลับมาร้องไห้ง้องแง้งได้ แต่ด้วยหน้าตาน่ารักน่าสงสารปนน่าขำพิกล เจ้าพวกนี้ก็เลยมักจะตกหลุมพรางคอยปลอบคอยโอ๋อยู่เรื่อย
"พี่ฮันซลดูสิ.... ไอ้แทยงมันใจร้าย ผมแค่ไปขออาศัยนอนเล่นเตียงมันหน่อยเดียวเอง มันดึงผมหล่นลงมากระแทกพื้นเลยอะ เนี่ยก้นช้ำไปหมดแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นรอยเขียวๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้.......ฮือ......."
"เตนล์จ๋า.....เมื่อกี้ตอนหล่นลงมา พี่ยูต๋าว่าหัวพี่กระแทกโดนขอบเตียงด้วยแหละ....ฮรึก......ถ้าสมองพี่ได้รับความกระทบกระเทือนแล้วจะทำยังไง......เตนล์จ๋าต้องสงสารพี่ยูต๋ามากๆ นะ.........."
พอได้ฟังต้นสายปลายเหตุซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องเดิมๆ ที่ระบายอารมณ์อย่างฮันซลและเตนล์ก็หันมาสบตากันด้วยแววตากระอักกระอ่วน ก่อนที่ฮันซลจะเป็นตัวแทนสองพี่น้องขาแดนซ์เอ่ยปากออกมา
"พี่ว่ามันคงไม่ขนาดนั้นมั้ง ยูตะ"
"ก็ขนาดนั้นแหละพี่!!"
"แทยงคงไม่ได้ตั้งใจหรอก"
"ก็มันตั้งใจจริงๆ อ้ะ!!!"
"ผมก็ว่าพี่แทยงเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะแกล้ง......."
"เตนล์จ๋าจะเข้าข้างไอ้แทยงเหรอ!!??"
แค่เตนล์ขยับปากเป็นเชิงเห็นด้วยกับฮันซล ยูตะก็หันมาแยกเขี้ยวแว้กใส่เร็วยิ่งกว่าลิงลม.... เพราะคนพวกนี้ไม่ใช่รูมเมทเหมือนอย่างเขา ก็เลยเห็นแต่ลีแทยงในมุมหล่อ ลองมาเจอแทยงเวอร์ชั่นบ้าจัดของตลอดเวลา บ้าอาบน้ำวันละสามรอบ บ้าทำความสะอาด บ้าซักผ้าทุกผืนที่อยู่ในห้อง ผ้าฉีดสเปรย์ปรับอากาศทั้งวี่ทั้งวันเหมือนอย่างเขาบ้างสิ เผลอๆ จะสติแตกถึงขั้นไปขอเมเนเจอร์นูน่าเปลี่ยนห้องตั้งแต่วันแรกเลยด้วยซ่ำ
"ไอ้แทยงมันเป็นบ้านะ.... คิดดูสิว่ามันสั่งให้เตนล์จ๋าไปล้างเท้าวันละกี่หน มันต้องโรคจิตคิดว่าเตนล์จ๋าของพี่ยูต๋าเป็นตัวเชื้อโรคแน่ๆ เลย!!"
"อะ......เอ่อ........"
ฉับพลัน รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านจากทางด้านหลังของจอห์นนี่และแจฮยอนซึ่งนั่งดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ พอหันไปมองก็เห็นเซ็นเตอร์หน้าแมวยืนจ้องยูตะที่กำลังไซโคให้ฮันซลกับเตนล์ร่วมผสมโรงด่า ใบหน้าที่ทั้งหล่อและสวยช่างเฉยเมยสมฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง ทว่า ดวงตากลมโตกลับฉายแววหมั่นไส้รุนแรง
และสายตากินเลือดกินเนื้อนั้นก็เหมือนจะบอกว่า.......
มึงไม่ได้น่ารักอยู่คนเดียวนะเว้ย ไอ้ยูตะ!!!
"ยองโฮวววว~~~~ แจฮยอนนนนน~~~~"
มาแล้วไง... ซวยแล้วพวกกู!
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกรีบวางแก้วกาแฟลงทันที แต่ครั้นจะวิ่งหนีก็ไม่ทันแล้วเมื่อแทยงโผเข้ามาคล้องแขนรอบคอสองหนุ่มร่างสูงคนละข้าง จอห์นนี่อยู่ทางซ้าย แจฮยอนอยู่ทางขวา และถึงแม้ว่าเสียงเรียกเมื่อกี้นี้จะถูกดัดจนหวานเจี๊ยบรื่นหูสักแค่ไหน มันก็ยังปิดความอาฆาตมาดร้ายเอาไว้ไม่มิด.... และสองพี่น้องขาเผือกซึ่งถูกดึงให้ลงมาอยู่ในสนามรบก็ทำได้แต่เพียงยิ้มแห้งหัวเราะจืด ปล่อยให้มือเย็นๆ ของแทยงลูบหลังต้นคอพาลให้เสียวไส้เพราะไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนเป็นจิกหนังหัวพวกเขาแทนหรือเปล่า
จะบอกว่าเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของฮันซลกับเตนล์ก็ตอนนี้นี่เอง....
"ยองโฮรู้ไหม.... ยูตะชอบไม่อาบน้ำข้ามวันข้ามคืน แถมยังเอาขนมมากินบนเตียงฉันด้วย?"
"อูแจ นายโชคดีจริงๆ นะที่บ้านอยู่ใกล้ จะไปกลับเมื่อไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่หอ.... เขาถึงว่าคับที่น่ะอยู่ได้ แต่คับใจมันอยู่ยาก พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้นายเข้าใจ แต่คิดว่ายังไงซะนายก็คงจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ใช่ไหม น้องรัก?"
รายนี้มาคนละโหมดกับยูตะโดยสิ้นเชิง เจ้าเด็กทาโกะยากินั่นมาถึงก็โวยวายแว้กๆ มีเท่าไรใส่เต็มไปอีกสิบเท่า ในขณะที่แทยงเพียงแค่ยิ้มหวาน พูดเสียงเย็น ไม่มีคำหยาบหลุดใส่จอห์นนี่กับแจฮยอนเลยสักคำ หากกลับเขย่าขวัญคนฟังได้พอๆ กับการเอาปืนมาจ่อหัวเลยทีเดียว
"เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาทำความสะอาดห้องใหม่.... ไม่มาเป็นฉันก็คงไม่มีใครเข้าใจสินะ"
ว่าแล้วก็ถอนหายใจพลางกระพริบตาปริบๆ ใส่หนุ่มชิคาโก้หนึ่งที หนุ่มแอลเออีกสองที เมื่อเจ้าชายแห่งคาริสม่าและการซักผ้าอุตส่าห์ลงทุนแปลงร่างเป็นแมวน้อยตะยง ถ้าไม่มีใครหลงกลเลยก็อย่ามาเรียกเขาว่าลีแทยงเสียให้ยาก...!!
"ใช่.... ไอ้ยูตะมันไม่ได้เรื่องเลย" จอห์นนี่หลงแววตาปิ๊งๆ ของแทยงโหมดเหมียวจนเผลอคล้อยตามไปเสียอย่างนั้น เดือดร้อนแจฮยอนต้องรีบกระทุ้งศอกเรียกสติ พี่ใหญ่ของรุ่น95ไลน์ถึงได้เปลี่ยนท่าทีจากหลังเท้ามาเป็นหน้ามือ "เอ๊ย ไม่ใช่ดิ.... พวกนายป็นรูมเมทกัน ทำไมไม่คุยกันดีๆ ล่ะ?"
"ก็คุยแล้ว แต่นายดูหมอนั่นสิ....." แต่เหมือนว่าจะช้าไปแล้ว แทยงน่าจะดูออกว่ามีใครบางคนเหยียบโดนกับระเบิดเข้าเต็มๆ ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาโยนระเบิดลูกที่สองที่สามกะว่าให้จอห์นนี่ซอแขนขาขาดกระจุยเพราะความน่ารักตายไปตรงนี้ "ฉันเหนื่อยแล้วอะ ปวดแขนด้วย ยกฟูกหนักๆ ไม่ไหวหรอก ยองโฮไปช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้หน่อยสิ.... ได้ไหม?"
"เอ๊ะ ฉันเหรอ??"
"อื้อ"
"งั้นไปสิ เดี๋ยวฉันช่วยเอง"
คราวนี้ ไม่ว่าแจฮยอนจะแอบกรี๊ดในใจหรือกระทุ้งศอกแรงแค่ไหนก็ไม่อาจเรียกสติยองโฮให้กลับคืนมาได้อีกแล้ว สองตาของพี่ชายชิคาโก้จับจ้องอยู่เพียงแค่ใบหน้าขาวๆ นัยน์ตาใสแจ๋ว และกลีบปากสีระเรื่อที่วันนี้คลี่ยิ้มให้เขาได้น่ารักที่สุดในสามโลก.... คือโลกของยองโฮ โลกของแทยง และโลกของเราสองคน
"ยองโฮใจดีจังเลย... ถ้ารูมเมทฉันเป็นนายก็คงดีเนอะ สนใจจะขอแลกห้องไหมล่ะ?"
ตุบ!!!
ยังไม่ทันขาดคำ หมอนอิงใบเขื่องก็ปลิวข้ามฟากลอยมาชนหัวแทยงเข้าเต็มเปา ส่งผลให้ทั้งห้องนั่งเล่นเงียบกริบในพริบตา.... ราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่นในตอนที่หมอนใบนั้นโดนหัวแทยงก่อนจะค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้นท่ามกลางลมหายใจของพวกเขาที่หลุดลอยไป นากาโมโตะ ยูตะก้าวขาฉับๆ ตรงมายังเพื่อนร่วมห้องที่นอนอยู่ด้วยกันแทบทุกคืนมาเป็นปี ในขณะที่แทยงก็มีองค์แจ็ค ฟรอสต์ ผสม เอลซ่า เข้าประทับร่าง ปล่อยพลังเยือกแข็งโต้ตอบชนิดที่ไทยมุง เกาหลีมุง อเมริกันมุงต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก
เอาอีกแล้วไง......!!!
"ไอ้ตะยงบ้าาาาาา!!!!"
ยูตะแหกปากเสียงลั่น หน้าตาที่บูดบึ้งเบะอยู่แล้วยิ่งอาการหนักกว่าเดิม ไอ้ที่ดูเหมือนบีบน้ำตาร้องไห้ก็ทำท่าว่าจะร้องออกมาจริงๆเมื่อโดนแทยงเททิ้งต่อหน้าต่อตา
"นายกล้าดียังไงถึงกล้าพูดแบบนั้นออกมา อยากเปลี่ยนรูมเมทมากนักใช่มะ!!??"
"ก็เออเซ่.... ไอ้ตะยูบ้า!!!"
"พูดงี้ก็มาไฝว้กันเลยดีกว่า!!!"
หลังประกาศเริ่มสงครามประสาท ยูตะก็หันหลังกลับไปคว้าแขนฮันซลกับเตนล์แล้วลากเข้ามาในสมรภูมิรบ ไม่มีการปรึกษา ไม่มีการขอความเห็นใดๆ จากเจ้าตัว ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากการบังคับและมโนเอาเองว่าตัวเองก็มีพรรคมีพวก ไม่ได้ตัวเปล่าเล่าเปลือยมาท้าสู้กับลีแทยง ผู้ซึ่งครองอำนาจสร้างอาณานิคมในหมู่เด็กเทรนด้วยการเอาเสื้อผ้าชาวบ้านไปแยกสีซักมือและทำอาหารเลี้ยงจนเป็นที่นับหน้าถือตา
"พี่ฮันซล เตนล์จ๋า.... ทั้งสองคนอยู่ข้างผมนะ วันนี้เราจะจับแมวหิมะมาถลกหนังแช่น้ำร้อนให้ได้!!"
"เง้ออออ~~"
"เอ่ออ.........."
บอกแล้วว่าไม่ได้ถามความเห็นใคร ดูจากสีหน้าก็พอรู้ว่าฮันซลกับเตนล์ก็ไม่ได้อยากทุบหม้อข้าวตัวเองนัก ขืนไปงัดข้อกับแทยงสุ่มสี่สุ่มห้าจะมีแต่ทำให้อดกินของอร่อยก็เท่านั้น
"ยองโฮ แจฮยอน.... เมื่อกี้พวกนายรับปากแล้วนะว่าจะช่วยฉันเปลี่ยนผ้าปูที่นอน งั้นเราก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกันนะ"
แทยงแกล้งเอียงหัวพิงไหล่จอห์นนี่ มืออีกข้างก็คล้องแขนแจฮยอนเอาไว้แน่น แต่สายตามองยูตะอย่างถือไพ่เหนือกว่าทั้งๆ ที่จำนวนคนก็เท่ากัน อนุมานว่าเห็นประกายไฟแล่นเปรี๊ยะออกมาจากร่างสองแมวรูมเมท.... จนกระทั่งได้ยินเสียงกุกกักก๊อกแก๊กดังมาจากประตูทางเข้า แทอิลกับโดยองซึ่งเพิ่งกลับมาจากร้านจาจังมยอนข้างนอกก็เดินตามมาสมทบแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งคู่ออกอาการงงสนิทเมื่ออยู่ดีๆ สมาชิกรุ่นโตก็อยู่พร้อมหน้าในห้องนั่งเล่นรวมโดยไม่ได้นัดหมาย
และเมื่อตัวช่วยใหม่ปรากฏขึ้น มีหรือว่าแมวป่วงทั้งสองตัวจะไม่รุมแย่ง?
"พี่แทอิล โดยองงี่ ทุกคนต้องอยู่ข้างผมนะ!!!" ยูตะถลาเข้าไปดึงแขนโดยองกับแทอิลให้มายืนฝั่งเดียวกับตัวเอง
"ไม่ได้! พี่แทอิล โดยอง ทุกคนต้องอยู่ข้างฉัน!!!" แทยงก็ไม่ยอมน้อยหน้า คว้าแขนแทอิลพร้อมกระชากคอโดยองแล้วลากให้มากองรวมกับจอห์นนี่และแจฮยอนในอาณาเขตของตน
"เรื่องอะไรกันเนี่ย?"
"นั่นดิพี่แทอิล.......??"
แทอิลกับโดยองสบตากันอย่างงุนงง ท่ามกลางบรรยากาศที่มาคุหนักกว่าเก่า สองเหมียวยังคงยื้อแย่งประชากรเข้าทีม ต่างฝ่ายต่างขู่ฟ่อ กางเล็บ เก็บหางเตรียมจะกระโจนเข้าใส่กันอยู่รอมร่อ
"อย่าให้ฉันต้องโมโหขึ้นมาจริงๆ นะ ไอ้ตะยู!!"
'นี่ขนาดยังไม่โมโหนะเนี่ย!!' ชาวมุงได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูดออกไปเพราะกลัวอำนาจมืดแมวขาว
"โอ๊ย กลัวตายล่ะ ไอ้ตะยง!!"
'นี่ขนาดไม่กลัวนะ แต่มายืนหลบหลังฮันซลตะโกนใส่เขาปาวๆ เนี่ย' ชาวมุงคิดอีกครั้ง
"อยากมีเรื่องให้ได้ใช่มั้ย!!??"
"แตกหักกันไปเลยปะล่ะ!!??"
"กล้าก็เข้ามาดิ.... มาเล้ย!!"
"นายนั่นแหละ เข้ามาก่อนดิ.... พ่อจะสวนให้หงายเงิบเลย!!!"
"นายหาเรื่องฉันก่อนก็เข้ามาก่อนเด่ะ!!!"
"ไม่เอา.... นายนั่นแหละ!!!"
"โอ๊ยยยยยยยยยยยย!!!!!!"
เสียงที่สามซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ของคู่แมวตะยงตะยูดังแทรกขึ้น กลบความตะแง้วๆ ของสองเหมียวที่มัวแต่ขากขนติดคอใส่กันอยู่ได้จนมิด.... น้องเล็กจีซองในชุดนอนสีฟ้าสุดแสนจะมุ้งมิ้งย่ำโครมๆ เข้ามาแทรกกลางวงแล้วยืนกอดอกเหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครอง ใบหน้าน่ารักงอง้ำพลางตวัดสายตามองแทยงกับยูตะเรียงตัว ทำเอาสองหนุ่ม95BFเงียบกริบไม่กล้าปริปากท้าตีท้าต่อยกันอีกแม้แต่คำเดียว
"พวกพี่ๆ เงียบกันหน่อยได้ไหมครับ ทะเลาะกันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ!!"
เจ้าตัวเล็กขอโวยบ้าง เพราะห้องของมินิรุกกี้อยู่ติดกับทางเดินด้านนอกสุดพอบดิบพอดี ดังนั้น ไม่ว่าเสียงรบกวนอะไรก็ตามก็มักจะกระเทือนแก้วหูอันบอบบางของพวกเขาก่อนเสมอ
"พี่มาร์คกับพี่เจโน่กำลังสอนการบ้านคณิตให้ผมอยู่ แต่ฟังไม่รู้เรื่องเลยก็เพราะพี่แทยงกับพี่ยูตะเอาแต่ตะโกนใส่กันเนี่ย!!"
"จีซองอ่าาาาา~~ พี่ยูต๋าขอโต๊ดดดดดด" ยูตะปรี่เข้าไปยกมือไหว้ปะหลกๆ ขอโทษเด็กมัธยมต้น.... ใครจะโกรธเขาก็ได้ แต่น้องจีซองเจ้าของแก้มนุ่มนิ่มน่าเอ็นดูจะโกรธพี่ยูต๋าไม่ได้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเวลาเหงาปากเหงามือจะเอาแก้มใครมาฟัดเล่นได้ล่ะ อย่างเจ้าดงฮยอก เจโน่หรือแจมินก็เลเวลสูงเกินไป พี่ยูต๋าลวนลามไม่ถนัด แงงงงงง~~~~
"ขอโทษนะ จีซอง.... พี่ลืมตัว เผลอเสียงดังไปหน่อยน่ะ" แทยงวางมือลงบนหัวน้องรัก สีหน้าของเขากลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วเมื่อมีจีซองตัวน้อยมายืนอยู่ตรงหน้า
"พี่สองคนเป็นรูมเมทกันก็ต้องรักกันสิครับ.... เมเนเจอร์นูน่าบอกให้พวกเราช่วยกันดูแลเหมือนพี่น้องไม่ใช่เหรอ แล้วพี่แทยงกับพี่ยูตะมาทะเลาะกันได้ยังไง"
"จ้าาาา พี่ยูต๋าผิดไปแล้วง่า"
"............"
ระหว่างที่ผู้ชายวัยยี่สิบโดนเด็กอายุสิบสี่เทศนาสั่งสอนอยู่นั้น จอห์นนี่ซอก็ส่งสัญญาณมือให้แก่พรรคพวก เป็นอันรู้กันว่า 'พอนับถอยหลัง สาม สอง หนึ่ง แล้ว รีบเผ่นเข้าห้องใครห้องมันเลยนะเมิงงงงง~~~'
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอน้องจีซองกลับห้อง แทยงกับยูตะหันกลับมาก็ไม่เจอใครเหลืออยู่เลย กองกำลังที่สู้อุตส่าห์สั่งสมล็อบบี้มาอย่างยากลำบาก บัดนี้กลับกลายเป็นทหารผีที่หายวับไปเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น.... แล้วพวกเขาจะตบตีกันเองทั้งๆ ที่ไม่มีคนเข้าข้างงั้นเหรอ ไม่เอาหรอก! ฝันไปเถอะ!
ว่าแล้วเหมียวตะยงกับเหมียวตะยูก็ต้องเดินตามกันเข้าห้องแบบไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
ทว่า สงครามที่ดูเหมือนจะจบลงแล้ว คนบางคนกลับยังไม่ยอมจบง่ายๆ เสียอย่างนั้น....
.
.
.
พอกลับเข้ามา แทยงก็จัดแจงเปลี่ยนผ้าปูที่นอน เอาผ้าห่มผืนเดิมไปยัดใส่ตะกร้าผ้าเตรียมซักชนิดไม่พูดไม่จา ใบหน้าของคุณเซ็นเตอร์เรียบตึงยิ่งกว่าเสื้อเชิ้ตที่เจ้าตัวรีดเก็บเอาไว้ในตู้ ไม่ยอมมองมายังรูมเมทที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงฝั่งตรงข้าม ไม่แม้แต่จะเคลียร์ปัญหาระหว่างพวกเขาให้จบทั้งที่เคยสัญญากันเอาไว้ว่าจะไม่ทะเลาะกันข้ามวันเด็ดขาด แถมเมื่อกี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนข้อให้กันเลยสักนิด ถ้าแทยงอยากจะเป็นฝ่ายชนะมากนัก ยูตะจะยอมเป็นฝ่ายแพ้ให้เองก็ได้....
เมื่อความน้อยใจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มเป็นก้อนในหัวสมอง พาลให้แก้มทั้งสองข้ามเริ่มพองออก ก่อนที่นากาโมโตะ ยูตะ จัดแจงกวาดเอาหมอนกับผ้าห่มขึ้นมาจากกองขยะที่เรียกว่าเตียงนอน ทำท่าจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นอีกหน
"จะไปไหน?"
"ไปนอนโซฟาข้างนอกดิ" ยูตะตอบ เขาสาบานเลยว่าไม่ได้ประชด ถึงแม้น้ำเสียงกับสายตาจะชวนให้คิดแบบนั้นก็ตาม "ก็เห็นนายอยากทำความสะอาดห้องใหม่ งั้นฉันไม่อยู่เกะกะนายดีกว่า"
"ไม่ต้องเลย!"
แทยงเดินเข้ามาหายูตะแล้วแย่งเอาหมอนกับผ้าห่มไปยัดลงตะกร้าผ้าว่างๆ อีกใบ คนผิวขาวจั๊วะเหมือนหิมะเปิดตู้เก็บของเอาเครื่องนอนชุดใหม่มาเปลี่ยนให้รูมเมทท่ามกลางสายตางุนงงของเจ้าตัวที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แต่สุดท้าย หนุ่มโอซาก้าก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วยในตอนที่แทยงพยายามยกฟูกขึ้นเพื่อถอดผ้าปูที่นอนผืนเก่าออกให้.... และทันทีที่แทยงเอ่ยปากพูด ยูตะถึงได้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาต่างหากที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเพื่อนร่วมห้องตัวเองเลย
"ที่ฉันบอกให้นายรักษาความสะอาด อย่าปล่อยให้ห้องรก ไม่ใช่เพราะว่าตัวนายเหม็นหรอกนะ ยูตะ" แทยงพูดไปพลาง เปลี่ยนปลอกหมอนให้ยูตะไปพลาง "ถ้าห้องสกปรก มันก็จะยิ่งมีเชื้อโรคสะสม.... เชื้อโรคจะทำให้สุขภาพของนายแย่ลง หรือไม่ก็อาจจะล้มป่วยไปเลยก็ได้"
"อะ...อืม"
"นายเป็นรูมเมทของฉัน ฉันไม่อยากเห็นนายไม่สบาย"
"อืม"
"น้ำก็ต้องอาบทุกวัน เสื้อผ้าก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกวันเหมือนกัน อย่าขี้เกียจ ของกินก็อย่าเอามากินบนที่นอน ถึงที่นี่จะฉีดยากำจัดแมลงทุกเดือน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแมลงสาบจะโผล่มาตามท่อไม่ได้"
"อืม"
"เข้าใจแล้วใช่ไหม?" เหมียวตะยงถามย้ำ เมื่อไม่แน่ใจว่าเหมียวตะยูจะโฟกัสสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปหรือเปล่า หรือจะมัวแต่งอนจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ดูจากสีหน้าแมวหงอยคล้ายจะรู้ตัวว่าผิด แทยงก็เชื่อว่ายูตะน่าจะเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เขาทำไปนั้นเพื่อใคร
"ไม่ใช่เพราะว่าฉันตัวเหม็นจริงๆ นะ?"
แทยงไม่ตอบแต่กลับดีดหน้าผากยูตะเสียงดังแป้ก เหมือนจะบอกว่าถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องอีก เขาก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละ.... หากตอนนี้ระหว่างทั้งสองคนไม่มีการพองขน แยกเขี้ยว กางเล็บเตรียมตะปบใส่กันแล้ว มีแต่รอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าซึ่งแสดงออกให้ต่างคนต่างรู้ว่าเพื่อนร่วมห้องรักและเป็นห่วงตนเองมากมายแค่ไหน แม้ว่าทั้งแทยงและยูตะจะเคยเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน แต่ระยะเวลาและความจริงใจกลับทำให้พวกเขารักกันแน่นแฟ้นเสียยิ่งกว่าพี่น้องท้องเดียวกันเสียอีก
"ฮือออออ แทยงอ่าาาาาา~~~~"
"เฮ้ยยยย!!" ยูตะกระโจนเข้าไปกอดแทยงจนทั้งคู่ล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน ไม่อยากจะบอกว่าเวลาแทยงยิ้มอย่างใจดีน่ะน่ารักที่สุด ยิ่งตอนที่เหมียวตะยงจอมซึนเดเระดิ้นๆ ไม่อยากให้เขากอดรัดฟัดเหวี่ยงก็ยิ่งน่าแกล้งไปกันใหญ่ "ฉันขอถอนคำพูด นายตัวเหม็นมาก ยูตะ.... ออกไปนะ!"
"ไม่ไปแว้วววว จะอยู่กับแทยงอย่างนี้ไปตลอดเลย~"
"นายอยากอยู่กับฉันจริงเหรอ?"
"จริง ^___^"
"แต่ฉันไม่อยากว่ะ"
"โธ่วววว TT__TT"
มันช่วยไม่ได้ที่เจ้าชายน้ำแข็งในสายตาแฟนๆ และรุ่นพี่จอมเก๊กแถมยังจู้จี้ขี้บ่นของน้องๆ จะหลุดหัวเราะออกมา ฝ่ามือขาวจัดซึ่งมีรอยเส้นเลือดสวยๆ ขยี้หัวยูตะอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนที่แทยงจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ
"เหงื่อนายติดเต็มตัวฉันไปหมดเลย ต้องไปอาบน้ำใหม่อีกแล้ว" เหมียวตะยงว่า พลางหันมาหาเหมียวตะยูที่นั่งจ๋องอยู่ที่เดิม "จะไปด้วยกันปะ?"
"อื้อ ไปด้วยดิ~"
และแล้ว คู่รูมเมทแมวเหมียวก็กลับมาคืนดีกัน และอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันอย่างสงบสุขไปได้อีกวันหนึ่ง....
THE END
งานแก้บนเจ้าค่ะ คราวนี้มาถึงคิวแทยงยูตะ (หรือยูตะแทยง... ช่างมันเถอะ 555+)
พอคิดว่าจะเขียนเรื่องของคู่ยูแท อย่างแรกที่ผุดมาในหัวเลยก็คือแมวกับรูมเมท
ก็อย่างที่หลายๆคนรู้กันว่าตอนนี้ยูแทไม่ได้เป็นรูมเมทกันแล้ว ฟิคแก้บนของเราก็เลยออกอาการนกๆ ปักษีปักษากันไป
แต่ก็เป็นที่เข้าใจตรงกันเนอะว่าเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันมันก็น่ารัก ดูรู้ใจตามประสาคนที่อยู่ห้องเดียวกัน ถึงจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแล้วแต่เราก็เชื่อว่าสองคนนี้ยังต้องสนิทกันอยู่ดี และความเป็นเพื่อนจะไม่หายไปไหนแน่นอน
อ่าหหห์~~ แมวเหมียวจงเจริญ #ทาสแมว
ถึงจะเป็นแค่งานแก้บน แต่ก็สามารถหวีดได้นะคะ จะช่องทางไหนก็ตามใจเลยจ้า
แฮชแท็ก
เอ่อ......
เอ่อ...............
เอ่อ..............................
#ตะยูตะยง ก็แล้วกัน (เพิ่งคิดตอนที่พิมพ์เนี่ยแหละ)
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ บาย
Alice
|